ตัว ดํา เนิน การ Python
- ตัวดำเนินการใน Python operator
- ตัวดำเนินการบูลีน - ครูไอที
- Powered
- ตัวดำเนินการทางตรรกะ - คำสั่งควบคุมโปรแกรม
เปิดโปรแกรม IDE สำหรับเขียนโปรแกรมขึ้นมา เช่น JetBrains-PyCharm-Edu หรือ Thonny 2. คลิกที่ Python Console เพื่อเริ่มเขียนโปรแกรมหาผลลัพธ์ค่าความจริงจากนิพจน์เปรียบเทียบที่มีการใช้ตัวดำเนินการบูลีน 3. พิมพ์คำสั่ง a = 5 แล้วกดปุ่ม Enter 4. พิมพ์คำสั่ง a>7 and a<9 แล้วกดปุ่ม Enter จะได้ผลลัพธ์คือ False 5. พิมพ์คำสั่ง a>7 or a<9 แล้วกดปุ่ม Enter จะได้ผลลัพธ์คือ True 6. พิมพ์คำสั่ง not a>7 แล้วกดปุ่ม Enter อ้างอิง: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, "เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ)", โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2562 หน้า 29
ตัวดำเนินการใน Python operator
ไม่ใช่ (not) จะให้ผลลัพธ์เป็นจริงเมื่อเงื่อนไขหลัง not เป็นเท็จ แต่ถ้าเงื่อนไขหลัง not เป็นจริงจะทำให้ผลลัพธ์เป็นเท็จ ตัวดำเนินการ ความหมาย 5. ตัวดำเนินการกำหนดค่าแบบผสม จะประกอบด้วย + =, - =, * =, / = และ% = โดยสามารถแสดงได้ดังนี้ นิพจน์ทั่วไป นิพจน์แบบผสม a = a + 5 a + = 5 a = a - b a - = 5 a = a * (b - 3) a * = (b – 3) a = a / 3 a / = - a = a% (b – 2) a% = (b - 2) 6. ตัวดำเนินการเงื่อนไข จะนำไปใช้ในการทดสอบค่านิพจน์ทางตรรกะว่า จริงหรือเท็จ ดังนี้ รูปแบ expression1? expression2: expression3 โดยที่ expression 1 หมายถึง นิพจน์เงื่อนไข expression 2 หมายถึง นิพจน์กรณีเป็นจริง expression 3 หมายถึง นิพจน์กรณีเป็นเท็จ ตัวอย่าง result = (x < y)? 0: 100; หรือ if (x < y) result = 0; else result = 100; หมายความว่า ถ้า x มีค่าน้อยกว่า y แล้ว กรณีเป็นจริง ตัวแปร result จะถูกกำหนดค่าเป็น 0 กรณีเป็นเท็จ ตัวแปร result จะถูกกำหนดค่าเป็น 100 ตัวดำเนินการกับลำดับความสำคัญ ลำดับการประมวลผลของนิพจน์ จะทำการประมวลผลในส่วนของวงเล็บก่อนในกรณีที่มีวงเล็บ จากนั้นจะคำนวณไปตามลำดับของการประมวลดังตารางข้างล่างนี้ และหากมีเครื่องหมายที่อยู่ในลำดับการประมวลผลเดียว กันจะทำการคำนวณจากด้านซ้ายไปด้านขวา ลำดับ ตัวดำเนินการ ความหมาย 1 () เครื่องหมายวงเล็บ 2 ++, -- ตัวดำเนินการเพิ่มค่า, ลดค่า 3 -,!
ตัวดำเนินการบูลีน - ครูไอที
a & b) | (a &! b); boolean g =! a; ("a = " + a); ("b = " + b); | b = " + c); ("a & b = " + d); ^ b = " + e); ("! a = " + g); ("! a & b | a &! b = " + f);}} 3. 1. 3 ตัวดำเนินการระดับ ( Bitwise Operator) ในการจัดเก็บข้อมูลประเภท Interger, short, int และ long จะเก็บในรูปแบบบิต และการเก็บข้อมูลจะเป็นแบบเครื่องหมาย Operator รูปแบบ และการทำงาน ผลลัพธ์ที่ได้ ~ ~ Op: ทำ complement คือ ทำการเปลี่ยนค่าของบิต 1 เป็น 0 และเปลี่ยนบิตที่มีค่า 0 เป็น 1 a= 0x0005 -6 <<, >> การย้ายบิตไปทางซ้าย และทางขวา a= 0x0005 << 2 a= 0x0005 >> 2 20 1 >>> การย้ายบิตไปทางขวาเสมือนไม่มีเครื่องหมาย a= 0x0005 >>> 2 a= 0xFFF5 >>> 2 16381 & ประมวลผลแบบ Bitwise & a = 0x0007; 5 XOR ^ a= 0x0007; 2 | | a= 0x0007; 7 3. 4 ลำดับการทำงานของตัวดำเนินการ ( precedence and associativity of operators) แสดงลำดับการทำงานของตัวดำเนินการในภาษา C มีดังนี้ ลำดับที่ ตัวดำเนินการ (Operator) ลักษณะการทำงาน ( Associativity) () []. -> Left to right - ~! * & Light to left 3 ++ - - Right to left 4 * /% + 6 << > < = >= 8 = =! = 9 (bitwise AND) 10 (bitwise exclu OR) 11 (bitwise inclu OR) 12 && 13 14?
Powered
- ตัวดําเนินการ python
- ประกาศรับสมัครงาน : สำนักงานจัดหางานจังหวัดเพชรบูรณ์
- รถ มอ ไซ ค์ หาย ทํา ไง
- ตัวดำเนินการ (Operator) – Thanakrit Online
- รถเบนซ์ มือสองe220
- ตัวดำเนินการ (Operators) ในภาษา PHP - MarcusCode
- เฉลย mathematics workbook ป 5
- ตัว ดํา เนิน การ python.org
- เดอะ แพ ลน ท์ บางแค
ตัวดำเนินการทางตรรกะ - คำสั่งควบคุมโปรแกรม
Unary ขวาไปซ้าย ++–+-! ~&*( type_name)sizeof new delete Multiplicative ซ้ายไปขวา */% Additive ซ้ายไปขวา +- Bitwise Shift ซ้ายไปขวา <<>> Relational ซ้ายไปขวา <><=>= Equality ซ้ายไปขวา ==! = Bitwise AND ซ้ายไปขวา & Bitwise Exclusive OR ซ้ายไปขวา ^ Bitwise Inclusive OR ซ้ายไปขวา | Logical AND ซ้ายไปขวา && Logical OR ซ้ายไปขวา || Conditional ขวาไปซ้าย? : Assignment ขวาไปซ้าย =+=-=*= /=<<=>>=%= &=^=|= Comma ซ้ายไปขวา,
or or ถ้าทั้งสองตัวหนึ่งเป็นเท็จจะคืนค่า เท็จ กรณีอื่นๆ เป็นจริงทั้งหมด (a or b) เป็นจริง. not คืนค่าตรงกันข้ามของค่าปัจจุบัน not(a and b) เป็นเท็จ เพราะ a and b เป็นจริง. ตัวดำเนินการสมาชิก ตัวดำเนินการสมาชิกเป็น ตัวดำเนินการพิเศษของภาษา Python จะไม่พบในภาษาอื่น ไว้สำหรับเช็คว่า ค่าที่เรากำลังสนใจเป็นสมาชิกของตัวแปรนั้นๆ หรือไมจะคืนค่าเป็น จริงหรือเท็จแล้วแต่กรณีใช้กับ such as strings, lists, or tuple in จะคืนค่าเป็นจริงถ้า พบค่าในตัวแปรที่เราสนใจ ในกรณีอื่นเป็นเท็จทั้งหมด x in y, คือค่าเป็น 1 ถ้า x เป็นสมาชิกของ y. not in จะคืนค่าเป็นจริงถ้าไม่พบค่าในตัวแปรที่เราสนใจ ในกรณีอื่นเป็นเท็จทั้งหมด x not in y, คือค่าเป็น 1 ถ้า x ไม่เป็นสมาชิกของ y นอกจากนี้ Python ยังมี Identity Operators เพื่อเช็คว่ามีตัวแปรที่ต้องการทราบอยู่ใน memory หรือเปล่า คือ is และ not is
: 15 += -= /=%= 16 <<= >>= ตัวดำเนินการที่มีลำดับการทำงานอันดับที่ 1 จะทำงานก่อนอันดับที่ 2 โดยทำงานไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหมดตัวดำเนินการ ส่วนลักษณะการทำงานของตัวดำเนินการแต่ละอันดับนั้นแตกต่างกันไป ซึ่งจะเป็นการทำงานจากซ้ายไปขวา (left to rigth) หรือขวาไปซ้าย (rigth to left) ก็ได้